จากกรณีแม่ของเด็กหญิงวัย 14 ปี เข้าร้องเรียนว่าลูกสาวตกเป็นเหยื่อถูกรุมโทรมในพื้นที่ สภ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ตั้งแต่เดือนพ.ย.2559 แต่คดีไม่มีความคืบหน้าและไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง ต่อมาตำรวจได้จับกุมตัวนายไก่ ซึ่งยอมรับว่ากระทำชำเรา ด.ญ.14 ปี จริง แต่ไม่ได้รุมโทรม ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่หาข่าว จนทราบว่ามีรุมโทรม ด.ญ.14 ปี จริง (อ่านข่าว :คลิปนาที คุมผู้ต้องหาคดีรุมโทรมเด็ก 14 ที่ด่านช้าง ทำแผน )
นอกจากนี้ยังถูกบังคับพาไปขายตัวให้กับชายสูงอายุในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ต่อมาเมื่อเย็นวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดสุพรรณบุรีได้อนุมัติหมายจับที่ 114 และ 115 /2560 ให้จับกุมนายสุนัย หรือเจ บุญแป้น และนายธนวัฒน์ หรือมิ้ง กำแหงคุมพล ก่อนเข้าควบคุมตัว ซึ่งยอมรับได้รุมโทรม ด.ญ.14 ปี และนำไปชี้จุดเกิดเหตุ ขณะเดียวกันตำรวจ ปคม. ควบคุมตัวน.ส.ปวีร์สุดา หรือแก้ม ขันซาทะ อายุ 20 ปี และนายธนพัตร หรือเจ๊บีม แสนคำ อายุ 31 ปี ซึ่งมีส่วนข้องกับคดีมาสอบปากคำตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 20 เม.ย. พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. แถลงจับกุมกุม น.ส.ปวีร์สุดา หรือแก้ม ขันซาทะ อายุ 20 ปี และนายธนพัฒน์ หรือเจ๊บีม แสนคำ อายุ 31 ปี หลังศาลอาญาออกหมายจับในข้อหาสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และได้ลงมือกระทำความผิดตามที่สมคบกันไว้ โดยร่วมกันแสวงหาประโยชน์มิชอบจากการเป็นธุระจัดหาเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อการค้าประเวณี จากกรณีที่หลอกให้ด.ญ.อายุ 14 ปี ไปขายบริการในพื้นที่ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2559
จากการสอบสวนนายธนพัตร หรือเจ๊บีม ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่าได้รับการติดต่อจากผู้เสียหายว่าต้องการหาเงินใช้ในการกลับบ้าน จึงได้ช่วยติดต่อลูกค้าให้ เป็นลูกค้าสูงวัย อายุประมาณ 50 ปี และเมื่อติดต่อหาลูกค้าได้แล้ว ก็ให้น.ส.แก้ม ทำหน้าที่พาผู้เสียหายไปส่ง และรอรับกลับ ก่อนจะนำเงินที่แบ่งจากผู้เสียหายมาแบ่งกันอีกที ยืนยันว่าไม่ได้มีการบังคับให้ผู้เสียหายขายบริการ แต่ผู้เสียหายเป็นผู้ต้องการเอง
นายธนพัตร ระบุว่า ส่วนตัวจะมีลูกค้าที่ได้รับการบอกต่อกันมา ให้ช่วยเป็นธุระจัดหาน้องๆ ให้ โดยไม่เคยถามว่าลูกค้าเป็นใคร หรือชื่ออะไร ในแต่ละครั้งจะได้ค่าจัดหาเป็นเงิน 500 บาท ซึ่งยอมรับว่าผิด และขอโทษต่อสังคมกับสิ่งที่ตนเองกระทำไป และฝากถึงผู้ที่ยังทำพฤติกรรมแบบตนเอง ขอให้มีสติอย่าหลงผิดแบบตน
พล.ต.ต.กรไชย กล่าวว่า จากเหตุการณ์นี้ผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ แต่จากการสืบสวนสอบสวน พบว่าเด็กที่เป็นผู้เสียหายอยู่ในภาวะจำยอม ซึ่งถือว่าแตกต่างจากการยินยอมอยู่มาก ซึ่งต่อจากนี้ขอยืนยันว่า กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ จะดำเนินการสืบสวนขยายผลหาผู้ที่ร่วมขบวนการนี้ทั้งหมดมาดำเนินคดี ส่วนการเยียวยาตัวน้องเยาวชน ทราบว่ามีหน่วยงานของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และของกระทรวงยุติธรรม เข้ามาช่วยเหลือเยียวยาแล้ว
ซึ่งภายหลังการแถลงข่าวพนักงานสอบสวนได้คุมตัวสองผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลอาญารัชดา เพื่อฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ในส่วนของผู้ที่ซื้อบริการผู้เสีย ขณะนี้มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. ทราบตัวผู้ที่มาซื้อบริการผู้เสียหายแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับต่อไป
ข่าวจาก matichon tv
0 comments:
Post a Comment